Restaurant

อยากรู้ประวัติความเป็นมาแต่ละร้านกันไหมคะ ไปดูกันเลย!!

อรทัย ซูซิวังหลัง

“เราเริ่มต้นสร้างครอบครัวกันมาจากการเป็นช่างซ่อมรองเท้าอยู่ตรงสี่แยกศิริราช พี่และสามีเป็นคนจังหวัดตรังด้วยกันทั้งคู่ ก็ขึ้นมาตั้งรกรากอยู่กรุงเทพฯ พอเริ่มมีลูกคนแรกอยากช่วยแบ่งเบาภาระให้สามี สร้างรากฐานครอบครัวให้มั่นคงมากขึ้น เลยไปลองหัดเรียนทำซูชิกับเพื่อน ชื่อคุณสาโรช ปัจจุบันเปิดร้านขายซูชิอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี พอเริ่มทำเป็นเราก็เริ่มมองหาที่ขาย ซึ่งการหาเช่าพื้นที่ในซอยวังหลังเมื่อ 13 -14 ปีที่แล้ว ก็ไม่ได้แตกต่างกับทุกวันนี้ คือ หาไม่ได้ง่ายเลย พี่เลยเริ่มต้นไปขายแผงลอยตรงท่าเรือคลองสานก่อน ขายตั้งแต่ 6-8 โมงเช้า ขากลับก็จะเดินผ่านซอยนี้ทุกวัน คิดทุกวันว่าอยากได้ที่ในนี้ จนผ่านไปประมาณ 1 ปี ถึงได้ที่ในซอยวังหลัง เป็นห้องเล็กๆ วางโต๊ะได้ประมาณเมตรครึ่ง เขากันเป็นห้องให้เช่าอยู่หน้าบ้าน ซึ่งก็คือที่ตั้งร้านสาขาใหม่ในปัจจุบันนี่แหละ”

“ขายอยู่ได้ประมาณ 4-5 ปี เริ่มเก็บเงินซื้อทาวน์เฮ้าส์ฝั่งตรงข้ามได้ 1 ห้อง (ปัจจุบัน คือ อรทัย ซีฟู้ด) จนย่างเข้าสู่ปีที่ 6 ห้องที่ติดกันก็ประกาศขายอีก ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะได้ห้องติดกันในซอยเล็กๆ อย่างนี้ ก็ไปคุยกับธนาคารจนได้เป็นหนี้ก้อนแรกในชีวิต 8 ล้านบาท แต่ถึงเปิดสองห้องลูกค้าก็ยังล้นออกมาตลอด จนมีผู้มีพระคุณมาเสนอที่ให้อีกที่หนึ่งอยู่ท้ายซอยติดกับถนนเข้ามาท่าน้ำศิริราช เลยเปิดเพิ่มขึ้นมาอีกสาขาหนึ่งเรียกว่า วังหลัง ซูชิ พลาซ่า แต่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเราก็ยังคิดถึงที่แรกที่เริ่มต้นเปิดร้านมาตลอด จนกระทั่ง 3 - 4 ปีที่แล้วคุณยายเจ้าของที่เสีย ที่ตรงนี้เป็นบ้านไม้เก่าไม่ได้ใช้ทำอะไร เราจึงไปคุยกับลูกของคุณยายว่าอยากขอเช่าเพื่อพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ เขาก็ตกลง เลยเริ่มรื้อถอนและลงมือทำเมื่อปลายปี 2559 เสร็จเมื่อปลายปีที่แล้ว เปิดร้านมาได้ 4 เดือนกว่า”

                                                                                                            ที่มา:https://www.smethailandclub.com/entrepreneur-2969-id.html

                                                                วังหลังเบเกอรี่

    ความเป็นมา  วังหลังเบเกอรี่ ร้านขนมเก่าแก่ที่เปิดมานานแล้ว เริ่มต้นจากร้านขนมปังเพียงไม่กี่ไส้ ภายหลังมีการเพิ่มไส้ที่หลากหลายและเพิ่มเมนูขนมชนิดต่างๆเหมาะกับการเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก นับเป็นขนมปังเจ้าแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงและด้วยคุณภาพที่ยังคงรักษาเอาไว้ได้อย่างยาวนาน ทำให้ขนมปังร้านนี้ มีลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาอุดหนุน บางคนทานกันมาตั้งแต่เด็กๆขนมปังมีให้เลือกหลากหลายไส้ ทั้ง แฮม, หมูหยอง, ไส้กรอก, ลูกเกด และเนยสด นายบุญชู โชติรัตนไพบูลย์ ย้อนกลับไปเมื่อ 36 ปีที่แล้ว จากลูกจ้างในร้านขนมปัง อาศัยความขยัน อดทน และใฝ่เรียนรู้ ทำให้สามารถเปิดโรงงานเล็กๆ เพื่อทำขนมปังส่งขายตามร้านขายของชำได้เป็นผลสำเร็จปัจจุบัน ได้ก้าวเป็นธุรกิจที่หล่อเลี้ยงครอบครัว และถ่ายทอดถึงรุ่นลูกเข้ามาบริหาร ภายใต้ชื่อร้าน “วังหลัง เบเกอรี่"

    ได้ฟังแบบนี้แล้วอยากมีร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเองกันเลยละค่ะ

                              ที่มา่: https://sites.google.com/site/ranwanghlangbekexri/prawati-khwam-pen-ma

แต่สำหรับร้านขนมป้าติ๋มถังแตกแล้วประวัตินี้คงต้องไปสอบถามคุณป้ากันตัวต่อตัวกันน่าจะเป็นข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์วันนี้เราจึงยกประวัติความเป็นมาของ ขนมชื่อแปลกๆ คือ ขนมถังแตก มาเล่าให้ฟังกันค่ะ

    "ขนมถังแตก" เป็นขนมโบราณ เป็นขนมแผ่นแป้งห่อไส้ คล้ายๆ เครป ที่ชอบรับประทานกันนั่นแหละแต่มีไส้เป็นมะพร้าวขูดฝอย โรยด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และเมล็ดงา ในสมัยก่อน นิยมขายตามสถานที่คนเยอะๆ ซึ่งตามสนามมวยหรือสนามม้าจะมีพ่อค้าชาวจีนหาบขาย ราคาไม่แพงและอันใหญ่มากกินได้อิ่มทีเดียว คนที่เข้ามาเล่นม้าหรือมวย และเสียการพนันเงินหมด ...